We are

“Some people talk green, these people live green!”

เจาะลึกเกาะพยาม ที่เที่ยวแห่งใหม่ขวัญใจสายอนุรักษ์

หากคุณตามหาจุดหมายปลายทางสำหรับการพักผ่อนเพื่อเสพธรรมชาติ มองหาทริปแบบสโลว์ไลฟ์ที่จะให้คุณสามารถนอนฟังเสียงทะเลชิล ๆ เดินเล่นชุมชนชาวบ้าน ดูป่าชายเลนพร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์และจะถูกใจยิ่งขึ้นหากเป็นการท่องเที่ยวที่เน้นอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วย อยู่แล้วละก็ เห็นที “เกาะพยาม” น่าจะเป็นจุดหมายปลายทางที่ถูกใจสำหรับคุณค่ะ 

เกาะพยาม” ตั้งอยู่ที่ ต.เกาะพยาม อ.เมือง จ.ระนอง ถือเป็นเกาะใหญ่หนึ่งในสองเกาะแห่งทะเลระนอง (อีกหนึ่งเกาะคือ เกาะช้าง)

แม้จะยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่ที่ผ่านมาทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ภูมิภาคภาคใต้ ก็ได้ร่วมกันสนับสนุนให้อัญมณีแห่งระนองแห่งนี้ เป็นที่รู้จักกันมากขึ้น เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว และโปรโมทการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ให้เป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้น ในช่วงหลัง ๆ เราจึงได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของเกาะแห่งนี้กันมากขึ้นเรื่อย ๆ และมีนักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวระนองกันมากขึ้น 

ทั้งนี้ จุดเด่นของเกาะพยาม ที่ถูกใจใครหลาย ๆ คนจนสร้างชื่อเสียงให้โด่งดัง ก็คือ “วิถีแห่งความสโลว์ไลฟ์” นั่นเองค่ะ
เพราะแม้จะเป็นเกาะเล็ก ๆ แต่ก็มีเสน่ห์มหาศาลจากวิถีชาวบ้าน การใช้ชีวิตของชุมชนชาวประมง และเกษตรกรรมที่ยังคงอนุรักษ์ไว้เป็นแบบดั้งเดิมในวิถีที่ค่อนข้างสโลว์ไลฟ์ซึ่งเป็นไปอย่างช้า ๆ แต่ทรงคุณค่า หาได้ยากจากสถานที่ท่องเที่ยวแห่งอื่น ๆ ในประเทศ

อีกทั้งที่นี่ยังเป็นเกาะที่ไม่มีมลพิษ โดยยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลายแห่งที่ยังอุดมสมบูรณ์ควรค่าแก่การแวะชม ซึ่งถือว่าถูกอกถูกใจนักท่องเที่ยวชาวเมืองอยู่ไม่น้อน

ดังนั้น หากใครรู้ตัวว่าเป็นสายเที่ยวเชิงธรรมชาติ เน้นการอนุรักษ์ และอยากออกห่างเมืองใหญ่เพื่อพักผ่อน สูดอากาศดี ๆ แล้วนั้น เราขอเชิญชวนทุกท่าน ได้ลองทำความรู้จักข้อมูล และแหล่งท่องเที่ยวของเกาะพยามแห่งนี้กันค่ะ

ประวัติและที่มาของเกาะพยาม

ด้วยความที่เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ไกลจากแผ่นดินใหญ่ ยิ่งในสมัยก่อนที่ยังไม่มีเรือโดยสารประจำ การเดินทางสู่เกาะพยามค่อนข้างลำบากเลยทีเดียว ดังนั้น การเดินทางสู่เกาะนี้ เรียกได้เลยว่าต้องใช้ “ความพยามยาม” กว่าจะเดินทางไปถึง ใช่แล้วค่ะ เมื่อพูดเร็วๆ ตามต้นฉบับภาษาใต้ เกาะที่ต้องอาศัยความพยามยามในการเดินทางไปแห่งนี้ ก็ได้ชื่อว่า “เกาะพยาม” ในที่สุด 

ในอดีต เกาะพยามมีคนอาศัยอยู่มาเนิ่นนานแล้ว ตั้งแต่สมัยที่ประเทศพม่าเป็นเมืองขึ้นของสหราชอาณาจักร โดยมีการสร้างชุมชนอยู่บนเกาะนี้ เพื่อป้องกันการรุกรานของต่างชาติ โดยในแรกเริ่มชาวบ้านบนเกาะพยามเป็นชาวมุสลิม ต่อมาจึงค่อย ๆ มีคนกลุ่มใหม่เข้ามาตั้งถิ่นฐานบนเกาะ ในปัจจุบัน เกาะพยามจึงเป็นแหล่งชุมชนของผู้คนที่หลากหลาย ทั้งมุสลิม พุทธ และคริสต์

ในปัจจุบัน แม้จะเริ่มเข้าสู่การเป็นเกาะเพื่อการท่องเที่ยว แต่ชุมชนยังพึ่งการทำประมง และเกษตรปลูกยางพารา รวมถึงต้นกาหยู(ต้นมะม่วงหิมพานต์) ซึ่งเกาะพยามถือเป็นแหล่งเพาะปลูกมะม่วงหิมพานต์คุณภาพดีที่มีชื่อเสียงเลื่องลือเลยทีเดียว

การเดินทางสู่เกาะพยาม และการเดินทางในเกาะพยาม

คุณสามารถเดินทางสู่เกาะพยาม โดยนั่งเครื่องบินตรงลงสู่ท่าอากาศยานจังหวัดระนอง จากนั้นต่อเรือ จากบริเวณท่าเรือเทศบาลตำบลปากน้ำ ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองระนอง ทั้งนี้ จากท่าเรือไปยังเกาะพยามจะต้องนั่งเรือข้ามไปเกาะ โดยมีเรือที่ให้บริการ 2 รูปแบบ นั่นคือ เรือธรรมดาใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงเศษ และเรือสปีดโบทใช้เวลา 30 นาที

ทั้งนี้ การเดินทางในเกาะพยาม สามารถเดินทางได้สะดวก โดยการเช่ารถมอเตอร์ไซต์ขับ ซึ่งบริเวณท่าเรือมีร้านเช่ามอเตอร์ไซต์ตั้งอยู่เป็นจำนวนมากรอรับบริการนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ หากคุณขับมอเตอร์ไซค์ไม่เป็น ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะรอบ ๆ เกาะพยาม เขามีมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ที่พร้อมนำพาคุณในไปทุกที่อยู่ด้วย

สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจแห่งเกาะพยาม

หินทะลุ-ชายหาดอ่าวเขาควาย : คือหนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญของเกาะพยาม เป็นชายหาดที่ตั้งอยู่บริเวณทิศตะวันตกของเกาะพยาม

ตัวชายหาดทอดยาว 3-4 กิโลเมตร ในบางช่วงตัวชายหาดจะมีหินเยอะ เป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวเพราะมีโขดหินรูปร่างโดดเด่นแปลกตา คล้ายซุ้มประตูจาการถูกน้ำทะเลกัดเซาะ ในขณะที่บางช่วงของหาด จะมีหาดทรายสวย ละเอียด และขึ้นชื่อเรื่องน้ำทะเลใส และคลื่นลมไปแรงเหมาะ
แก่การพักผ่อน

หาดอ่าวใหญ่:
ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะ เป็นชายหาดที่มีที่พักราคาไม่แพงรองรับนักท่องเที่ยวให้เลือกหลายแห่ง ส่วนใหญ่เป็นที่พักสไตล์บังกาโล ทั้งนี้หาดนี้มีลักษณะเป็นเวิ้งโค้งทอดตัวยาว มีความสวยงามมากโดยเฉพาะช่วงน้ำลงเพราะพื้นของชายหาดจะมีลักษณะเป็นริ้ว ๆ ดูน่ามองไม่น้อยค่ะ

โบสถ์กลางน้ำเกาะพยาม:
หรืออุทุกกเขปสีมา เป็นโบสถ์วัดไทยที่ก่อสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2528 จากความตั้งใจร่วมกันของชาวเกาะพยาม มีลักษณะเป็นอาคารทรงกลม 8 ประตู ซึ่งสื่อถึงคำสอนเรื่องมรรค 8 ประการ

การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์กับวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตร เกาะพยาม
นอกจากแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแล้วนั้น ในปัจจุบันที่นี่ยังเน้นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อีกด้วย ซึ่งการท่องเที่ยวแนวนี้ เกิดจากชาวเกาะพยามเองโดยตรง ที่ได้ร่วมกันก่อตั้งวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตร เกาะพยามขึ้น โดยมีจำนวนสมาชิกกว่า 60 ครัวเรือน ร่วมกันทำกิจกรรมส่งเสริมการเกษตรและท่องเที่ยว โดยมีการนำนักท่องเที่ยวสัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านบนเกาะพยาม การพาเที่ยวชมตลาดใต้ม่วงที่เน้นการจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์จากชุมชน การจัดกิจกรรมทัวร์สวนกาหยู ที่มีการสาธิตการแปรรูป และเก็บเกี่ยวแบบดั้งเดิม

นอกจากนี้ยังมีการท่องเที่ยวเชิงประมง ให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมกันศึกษาชีวิตป่าชายเลน เช่น เยี่ยมชมและศึกษาธนาคารปูม้า พร้อมกับการนำนักท่องเที่ยวทานอาหารซีฟู้ดรสเด็ดแบบสด ๆ 

นอกจากการเยี่ยมชมชายหาด จุดแลนด์มาร์กน่าสนใจ การเที่ยวเชิงอนุรักษ์ไปกับวิสาหกิจชุมชนบนเกาะพยามแล้วนั้น นักท่องเที่ยวยังสามารถสัมผัสกับกิจกรรมต่าง ๆ ที่น่าสนใจได้อีกหลายกิจกรรม อาทิ การเดินป่าตามเส้นทางเดินเท้าที่ตัดเข้าไปในป่าชายเลน
การถ่ายรูปธรรมชาติ พืชและสัตว์หายาก กิจกรรมส่องนก ดำน้ำชมปักการัง รวมไปถึงการนอนเต็นท์ บริเวณเกาะแก่งต่าง ๆ ได้อีกด้วย